วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

     รีวิว เที่ยวเกาะเกร็ดใน1วันในแบบฉบับของพวกเราเด็กมอห้า




สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคนวันนี้บัวจะมารีวิวการเที่ยวเกาะเกร็ดใน1วันสำหรับเพื่อนๆที่ไม่ค่อยมีเวลาในการท่องเที่ยวมากเท่าไหร่จริงๆแล้วเกาะเกร็ดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ได้มีพื้นที่เยอะเหมาะแก่การมาเที่ยวในเวลาสั้นๆ แต่เราจำเป็นต้องนั่งเรือข้ามฝั่ง ถ้าเพื่อนๆคนไหนว่ายน้ำไม่เป็นก็ต้องระวังตัวกันด้วยนะคะ การข้ามฝั่งใช้เวลาไม่นานก็ถึงฝั่งแล้วค่ะ วันนี้บัวจะพาไปดูวัดวาอารม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก การทำเครื่องปั่นดินเผา ต่างๆนาๆ การไปเกาะเกร็ดครั้งนี้ของบัว บัวได้ไปกับเพื่อน4คน งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าในเกาะเกร็ดมีอะไรบ้าง ไปกันนนนนน



เริ่มแรกนะค่ะพวกเราเดินทางไปยังเกาะเกร็ด โดยพวกเรานั่งรถเมล์สาย 356 เข้าถนนแจ้งวัฒนะ จุดสังเกตุตอนลงรถเมล์คือ เราจะลงตรงเทสโก้โลตัสที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมของถนนจากนั้นเราก็เดินเข้าซอยต่อไป และไปต่อเรือข้ามฝั่งที่วัดสนามเสือเหนือ ไปยังฝั่งของเกาะเกร็ด
อัตราค่าโดยสาร
รถเมล์สาย 356 ราคา 9 บาท
นั่งเรือข้ามฝั่ง ราคา 2 บาท


ศาลาท่าเรือวัดเสือเหนือ


  พอพวกเราข้ามฝั่งมาแล้วมาถึงเกาะเกร็ดกันแล้วเราก็เริ่มจากการไหว้พระกันก่อนในครั้งนี้เราไปทั้งหมด3วัด



วัดแรกนี้เป็นวัดแรกที่เราไปกัน วัดนี้ขึ้นมาจากท่าเรือก็เจอเลยนะคะ




นี่เป็นวัดที่สองที่พวกเราไปกัน เดินมาเรื่อยๆแล้วเราก็จะเจอวันนี้



และนี่เป็นวัดสุดท้ายที่พวกเราไปกันค่ะ

หลังจากที่พวกเราไปไหว้พระกันเรียบร้อยแล้วพวกเราก็เดินเล่นหามุมถ่ายรูปกันสักพัก (หรือเราจะเลือกที่จะเช่าจักยานมาปั่นแทนการเดินก็ได้นะคะ)






พอพวกเราเดินไปได้สักพักพวกเราก็เริ่มหิวกันเราก็เลยเดินหาร้านอาหารทาน ร้านอาหารที่เกาะเกร็ดจะค่อนข้างเต็มเร็วนะคะไม่ค่อยมีที่นั่ง คนเยอะ พวกเราก็เดินหาร้านกันไปเรื่อยๆ จนพวกเรามาเจอร้านขายก๋วยเตี๋ยวริมน้ำ  ร้านนี้บรรยากาศดีมากๆเลยนะคะเพราะติดริมน้ำอากาศถ่ายเทมีเรือต่างๆผ่าน ร้านนี้ก็จะมีก๋วยเตี๋ยวหมูก๋วยเตี๋ยวเนื้อให้เลือกสรรมากมายและก็มีก๋วยเตี๋ยวใส่ไข่ด้วยนะคะเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่








หลังจากที่พวกเราได้รับประทานอาหารกันเสร็จแล้วพวกเราก็ไปปั้นเครื่องปั้นดินเผากันเพราะที่เกาะเกร็ดมีชุมชนเครื่องปั้นดินเผาพวกเราก็เลยไปลองปั้นกันดูที่ชุมชนมีเครื่องปั้นดินเผามากมายเลยนะคะมีทำเพื่อส่งไปขายด้วยค่ะวิธีการทำเครื่องปั้นดินเผาก็ไม่ยากนะคะแต่มือต้องนิ่งปั้นก็ใช้เวลาไม่นานค่ะแล้วเขาก็จะเป่าแห้งให้เราแทนการเผานะคะเพราะการเผาจะต้องใช้เวลา



 






เสร็จจากการทำเครื่องปั้นดินเผาเสร็จแล้วเราก็เดินหาของฝากกันที่นี่ก็จะมีของหลากหลายให้เลือกแต่ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ร้านขนมไทย และเป็นขนมที่พวกเราไม่คุ้นเคยกันมีของประดับมากมาย และก็มีอยู่ร้านหนึ่งที่ต้องจับตามองเลยคือร้านถ่ายรูปด้วยแต่เขาใช้กล้องสมัยโบราณถ่ายค่ะเป็นอะไรที่ดูย้อนยุคมากค่ะ




ร้านที่พวกเราไปเลือกซื้อของประดับกันค่ะร้านนี้ขายของที่สวยงามมากค่ะมีกำไลหินสวยๆทั้งนั้นเลย



อันนี้เป็นขนมไทยที่บัวชอบมากเลยค่ะลูกชุบนั้นเองอร่อยจนต้องบอกต่อค่ะ



อันนี้ก็เป็นไอศกรีมแท่งที่พวกเราก็ซื้อรับประทานนับร้อนกันไป


หลังจากที่เราเดินเลือกซื้อของฝากกันมาได้สักพักแล้วละนี่ก็คือของฝากของพวกเราที่ซื้อมาทั้งหมดค่ะก่อนที่จะออกจากเกาะเกร็ดค่ะ พวกเราก็ถ่ายรูปกันอีกนิดๆหน่อยๆไว้เป็นความทรงจำแล้วค่อยนั่งเรือข้ามฝั่งกลับค่ะ




สุดท้ายนี้บัวก็ขอแนะนำแลนด์มาร์กของเกาะเกร็ดที่ทุกคนไปแล้วต้องถ่ายรูปไม่งั้นไปไม่ถึงนะคะ





เรานั่งเรือข้ามฝั่งมาเราก็จะเห็นเจดีย์องค์นี้ตั้งอยู่ โดยลักษณะเด่นของเจดีย์องค์นี้คือมีลักษณะเอียงเอนเพราะว่าเจดีย์องค์นี้อยู่ใกล้ริมน้ำ



และนี่คือภาพบรรยากาศที่พวกราได้ถ่ายเก็บมาฝากกันค่ะ









เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับรีวิวไปเที่ยวเกาะเกร็ดใน1วันแบบฉบับเด็กมอห้าของบัว บัวก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นรีวิวที่เป็นประโยชน์และชี้แนะแนวทางให้แก่บุคคลที่อยากจะไปเที่ยวโดยใช้เวลาเที่ยวสั้นๆใน1วันนะคะ อย่าลืมไปเที่ยวเกาะเกร็ดกันเยอะๆนะเที่ยวให้สนุกนะคะ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น